แต่งบ้าน minimal
แต่งบ้าน minimal สัมผัสความอบอุ่นด้านในห้องรับแขก ที่ตกแต่งด้วยสิ่งของไม้เป็นหลัก ซึ่งให้อีกทั้งความยุติธรรมชาติและก็ความบรรเทาได้อย่างดีเยี่ยม โดยรอบๆรอบห้องจะย้ำเป็นโทนสีขาว ก็เลยทำให้ข้างในห้องรู้สึกสดใส การตกแต่งห้องสไตล์ Minimal : ห้องนอนที่ให้ความสบายตา แจ่มใสสบายตา ที่เหมาะสมกับการพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมตกแต่งด้วยเครื่องเรือนไม้ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศของความอบอุ่น ซึ่งจัดวางเป็นระเบียบ ก็เลยทำให้ด้านในห้องมองงาม
เรียบง่าย ตกแต่งง่าย น่าพัก สำหรับห้องโทนสีขาว ที่ย้ำการตกแต่งทั้งสิ้นเป็นโทนสีขาว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเรือน ฉาก แล้วก็ ผ้าที่มีไว้ปูที่นอน พร้อมเพิ่มลูกเล่นให้ข้างในห้องด้วยของตกแต่งต่างๆอย่าง กระจกทรงกลม บันได แล้วก็ ต้นไม้น่ารักน่าเอ็นดูๆ
เติมเต็มความอร่อยสำหรับการทานอาหาร ด้วยบรรยากาศด้านในห้องที่ให้รู้สึกดีและผ่อนคลาย ไม่อึดอัด พร้อมเพิ่มเสน่ห์ความหวานแล้วก็ความมีชีวิตชีวาด้วยแจกันดอกไม้เก๋ๆ

Minimal Style เป็นอย่างไร?
สไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย เน้นย้ำการใช้เครื่องเรือนแบบน้อยชิ้น แต่ละชิ้นจำต้องมากมายด้วยผลดี ทั้งยังยังจำเป็นต้องไม่ทิ้งออกแบบเรียบไม่ว่าจะด้วยทรง สี แล้วก็จำต้องไม่มีลวดลายเท่าไรนัก ซึ่งการจัดวางต่างๆจะอยู่ในลักษณะที่มีความเป็นระเบียบ
เอกลักษณ์สำหรับการตกแต่งสไตล์ไม่นิมอลหมายถึงการมีความสมดุลและก็ความบรรเทา ชอบมีโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อนๆยกตัวอย่างเช่น สีขาว สีเทาอ่อน สีเทาเข้ม รวมทั้งการออกแบบที่มีเส้นสายตาที่ตรงรวมทั้งชาร์ป
เครื่องเรือนทุกชิ้นที่คัดสรรมาตกแต่งในบ้านสไตล์นี้ ชอบสนองตอบการใช้แรงงานได้อย่างพร้อม มีความเพียงพอ ไม่มากมายหรือน้อยจนถึงเกินความจำเป็น ยิ่งไปกว่านี้ ยังย้ำการจัดสเปสให้มีความว่างเปล่ารวมทั้งมองกว้างใหญ่ โปร่งโล่งเตียน สไตล์นี้ก็เลยเป็นที่นิยมมากมายเป็นพิเศษในหมู่คนแบบใหม่สุดที่รักความเงียบสงบรวมทั้งถูกใจการตกแต่งบ้านที่ย้ำความสะอาด สดใส และก็มีพื้นที่ว่างจำนวนไม่ใช่น้อย จัดสวน มินิมอล
มีสเปซเหลือกินเหลือใช้เยอะแยะ เนื่องจากว่าสไตล์ไม่นิมอลมีการใช้เครื่องเรือนน้อยชิ้น เน้นย้ำการเลือกใช้แม้กระนั้นสิ่งจำเป็น รวมทั้งของตกแต่งพวกนั้นจะต้องมีความง่ายๆ ทำให้การตกแต่งสไตล์นี้ มีพื้นที่ว่างหลงเหลืออยู่มากมาย เป็นเป็นอัตราส่วนคร่าวๆ Space 60% : Decoration 40%
ใช้สีน้อยๆหรือสีโมโนโทนสำหรับการตกแต่ง สไตล์ไม่นิมอลจะใช้โทนสีสำหรับการตกแต่งไม่เท่าไรนัก และก็ส่วนมากจะเป็นสีพื้นที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับห้อง โทนสีที่ใช้สำหรับบ้านสไตล์ไม่นิมอล จะต้องเป็นสีออกโมโนโทนหรือสีอ่อนๆดังเช่นว่า สีขาว เทาอ่อน เทาเข้ม น้ำตาลอ่อน
เครื่องเรือนน้อยชิ้น แม้กระนั้นจำเป็นจะต้อง และก็มีดีไซน์เฉพาะบุคคล เครื่องเรือนในแบบไม่นิมอลสไตล์ ถึงแม้ว่าจะมีความราบเรียบ ไม่เน้นย้ำรวดลาย แม้กระนั้นออกแบบจะต้องมองนำสมัย หรือมีทรงที่น่าดึงดูด ตัวอย่างเช่น ตะเกียงเรียบหรือออกแบบบางดีเลิศ เก้าอี้พื้นๆที่ไม่มีลวดลาย แม้กระนั้นมีทรงที่มองมีคอนเซ็ปต์ ตัดทอนความมากและไม่จำเป็นจะต้องให้เหลือแค่ความธรรมดาที่มองเด่นในแบบของตน บ้าน
สไตล์ Cozy เป็นยังไง
สไตล์ Cozyหมายถึงการประสมประสานความรู้ความเข้าใจทั้งยังธรรมชาติ และก็อารมณ์ความรู้สึกของผู้อาศัยมาผสมให้เกิดเรื่องราวเดียวกัน ถ่ายทอดผ่านส่วนประกอบสำหรับการตกแต่ง ดังเช่นว่า การปูพื้น โทนสี ของตกแต่ง เครื่องตกแต่งบ้านและก็เครื่องเรือน
โทนสีที่นิยมประยุกต์ใช้เป็นเฉดสีที่สื่อถึงความยุติธรรมชาติ ได้แก่ กรุ๊ปสีเอิร์ธโทน ภาพรวมการจัดวางแล้วก็ตกแต่ง โดยย้ำความโปร่งรวมทั้งเปิดรับแสงสว่างในทุกด้าน ไม่เพียงแค่โทนสีรวมทั้งความส่องสว่าง หนึ่งแนวทางที่ดีรวมทั้งห้ามพลาดสำหรับเพื่อการตกแต่งบ้านในสไตล์ Cozyเป็นเครื่องเรือนจากอุปกรณ์ธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์เชื้อสายไม้ ไม่ว่าจะเป็น ไม้จริงหรือไม้สังเคราะห์
จุดสังเกตุสิ่งแรกเป็นการตกแต่งในสไตล์ Cozy ชอบเลือกใช้อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการก่อสร้างหรือตกแต่งที่ทำจากธรรมชาติ หรือมี Mood&Tone ของความยุติธรรมชาติ พื้น เพดาน ฝาผนัง และก็เฟอรนิพบร์ต่างๆยกตัวอย่างเช่น เครื่องประดับบ้าน ของตกแต่ง ชอบมีงานไม้เป็นผู้แสดงนำชายสำคัญๆรวมถึงสิ่งของอื่นๆไม่ว่าจะเป็น งานหินอ่อน ปูนเปลือยสีโทนอ่อนๆไม้คอร์ก โดยสามารถใช้ไม้เทียมตอบแทนได้ ซึ่งคุณลักษณะเด่นของอุปกรณ์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วมิได้มีเพียงแค่ความงดงามรวมทั้งการผลิตความรู้สึกที่ดี สิ่งของจากธรรมชาติยังมีความแข็งแรง คงทน เหมาะกับทุกลักษณะอากาศอย่างแท้จริง HOME
โทนสีรวมทั้งการตกแต่งที่เหมาะสมกับการพักผ่อนหย่อนใจ
สไตล์ Cozy จะมีลักษณะเด่นในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบรรยากาศ การเล่นกับความรู้สึกของผู้อาศัย โดยจะย้ำให้ความรู้ความเข้าใจสึกที่อบอุ่น ค่อยสบาย รวมทั้งสร้างความบรรเทา ส่งผลให้เกิดสภาพการณ์ที่ความสงบสุขเมื่อก้าวเข้าบ้าน การเลือกใช้โทนสีก็เลยเป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกัน โดยความบรรเทานี้ถูกส่งผ่านทางการตกแต่งแล้วก็โทนสีที่เลือกใช้ ดังเช่นว่า เครื่องเรือนสีเอิร์ธโทน หรือสีโทนสว่าง ที่สร้างบรรยากาศเย็นสบายตาแล้วก็สร้างความสบายกับผู้อาศัย
วางแบบที่เรียบง่ายแม้กระนั้นตอบปัญหาการใช้แรงงาน
แม้ว่าการตกแต่งแบบ Cozy จะเรียบง่าย แต่ว่าก็จำต้องตอบปัญหาการใช้พื้นที่ให้กับคนยุคนี้ได้อย่างดีเยี่ยม อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการใช้แนวทางการกันห้องเพื่อจัดแบ่งพื้นที่แต่ละห้องให้เป็นสัดส่วน พร้อมโดยที่จำต้องมองไม่เกลื่อนกลาดมากเกินความจำเป็น หากยังคิดภาพไม่ออก ส่วนที่พักผ่อนก็เป็นแบบเบาะตั้งกับพื้น เพื่อจัดเก็บได้ง่าย หรือการใช้เบาะนั่งกับพื้นเพื่อแทนเก้าอี้ ฯลฯ เหมือนกันกับการใช้พื้นไม้จริงและก็ลามิเนตจะช่วยตอบปัญหาเรื่องราคาที่ไม่สูงมากมาย แต่ว่าในเวลาเดียวกันก็ให้ความงามรวมทั้งอายุการใช้งานที่ช้านานพอเหมาะพอควร
สไตล์ Minimal&Cozy ก็คือการนำเอาความธรรมดาของสไตล์ Minimal มาประสมประสานกับการตกแต่งที่มีความอบอุ่นในแบบ Cozy กล่าวอีกนัยหนึ่ง เป็นการจับเอาวิธีการตกแต่ง การเลือกใช้สิ่งของ เครื่องเรือน โทนสี แล้วก็การออกแบบของทาง 2 สไตล์ เพื่อกำเนิดความใกล้เคียงในแบบใหม่ๆถ้าเกิดจะคิดให้เห็นภาพง่ายมากยิ่งขึ้น สไตล์นี้เป็นสไตล์ที่นิยมนำไปตกแต่งคาเฟ่ หรือเป็นแบบบ้านของประเทศญี่ปุ่นที่มีให้มองเห็นกันเป็นประจำ
อุปกรณ์ที่บอกถึงความเป็น Minimal&Cozy มีหลายชนิดร่วมกัน แต่ว่าจุดแข็งของอุปกรณ์พวกนั้นที่จะทำให้การตกแต่งโดยรวมออกมาเป็นสไตล์ Minimal&Cozy เป็นควรจะมีความง่ายๆ จับไปวางที่ไหนก็ทำให้ห้องมองสบายตา ไม่กระโดดออกมาจากภาพรวมเยอะเกินไป เป็นต้นว่า
จุดเด่นของการตกแต่งบ้านในสไตล์ไม่นิมอลก็เป็น สามารถช่วยปรับบรรเทามองดูไปทางไหนก็สบายตา เพราะเหตุว่าการตกแต่งบ้านสไตล์นี้เน้นย้ำการตกแต่งด้วยเครื่องเรือนน้อยชิ้น ก็เลยทำให้บ้านมองโปร่งเตียนโล่ง ทั้งทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายขึ้น แถมยังส่งผลให้ภาพรวมของบ้านดูดีมากยิ่งขึ้นๆอีกด้วย บ้านจัดสรร
พื้นไม้จริง (wood flooring)
พื้นไม้ (wood flooring) ทำจากสิ่งของธรรมชาติ ซึ่งคนประเทศไทยนิยมใช้ไม้มาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณ เนื่องแต่ไม้ในอดีตกาลเป็นสิ่งของที่หาได้ง่าย ปลูกชดเชยได้ ไม้ที่นิยมประยุกต์ใช้ทำพื้นเป็นไม้เนื้อแข็ง เป็นต้นว่า ไม้เต็ง ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้สัก ฯลฯ สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งยังบ้านไม้ รวมทั้งบ้านปูน กรณีเป็นบ้านไม้ใช้แนวทางตอกยึดกับคานไม้ แต่ว่าปัจจุบันนี้นิยมก่อสร้างบ้านปูนกันมากมาย โดยการทำการเทพื้นคอนกรีตก่อน แล้วปูพื้นไม้ทับไปอีกครั้งด้วยกาวสำหรับงานปูพื้น แก่นไม้จะให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้า สีสันอบอุ่น มองหรูหราอย่างเป็นธรรมชาติ แม้กระนั้นตอนนี้ไม้เริ่มหายากก็เลยราคาแพงที่สูงมากมาย บ้านที่นิยมนำไม้มาเป็นอุปกรณ์ปูพื้นก็เลยมักเป็นบ้านหรู Luxury หรือบ้านราษฎรที่นำไม้ปลูกเองในชุมชนมาใช้งาน ส่วนบ้านทั่วๆไปนิยมใช้อุปกรณ์ตอบแทนไม้ หรือไม้เทียมนั่นเอง
พื้นลามิเนต
พื้นไม้ลามิเนตเป็นพื้นไม้ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ โดยมีไม้เป็นองค์ประกอบเพียงแค่เล็กน้อย ในขณะนี้พื้นชนิดนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากว่าคงทนถาวร งดงามเสมือนไม้จริง และก็จัดตั้งง่าย ทั้งยังมีระบบระเบียบล๊อกที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นไม้ การเปลี่ยนจากการเชื่อมต่อด้วยกาวมาเป็นการเชื่อมโดยใช้กลไกนิดๆหน่อยๆก็ทำให้การตำหนิดตั้งเป็นได้อย่างราบรื่น แล้วก็เร็วทันใจ
สำหรับความดกที่นิยมใช้ประโยชน์งาน จะมีความดกตั้งแต่ 6 -12 มม. โดยขนาดความกว้าง x ยาว ที่นิยมเอาไปใช้งาน ส่วนมากจะอยู่ที่ 195 x 1200 มม. และก็ในส่วนอายุการใช้งานนั้น เกรดปกติจะแก่การใช้แรงงานเฉลี่ย 10-15 ปี รวมทั้งเกรดพรีเมี่ยม แก่การใช้แรงงานเฉลี่ยมากยิ่งกว่า 15 ปี ขึ้นไป
แผ่นลามิเนตตัดต่อลาย (Patchwork Laminate)
ควรจะระบุลายแล้วก็ขนาดของแผ่นให้แน่ๆก่อนสั่งผลิต สามารถตัดแต่งปรับแต่งวันหลังได้แม้กระนั้นจะสิ้นเปลือง แผ่นลามิเนตตัดต่อลายเป็นการนำอุปกรณ์ปิดผิวลามิเนตมาทำตัดต่อให้กำเนิดเป็นลวดลายโดยใช้เครื่องจักรประสิทธิภาพสูงสำหรับการตัดแผ่นลามิเนตแล้วเอามาต่อกันบนแผ่นไม้ MDF ด้วยเหตุผลดังกล่าวความครึ้มรวมของแผ่นลามิเนตตัดต่อลายจะมากยิ่งกว่าแผ่นไฮเพรสเชอร์ลามิเนตทั่วๆไป
Cork Finishing (แผ่นไม้คอร์ก)
นับเป็นอุปกรณ์รักษาโลกอย่างแท้จริง เพราะเหตุว่าการสร้างนั้นจะใช้กรรมวิธีการลอกเปลือกของต้นไม้ชั้นนอกออกมาผลิตเป็นแผ่นไม้คอร์กสำเร็จรูป ต้นไม้ที่ถูกลอกเปลือกนั้นจะไม่ตายแล้วก็มีการเติบโตถัดไป เมื่อช่วงเวลาผ่านไปโดยประมาณ 20 ปี ก็สามารถลอกเปลือกออกมาใช้งานได้อีก
คุณลักษณะที่เด่นของแผ่นไม้คอร์กคือ เป็นอุปกรณ์ซึมซับเสียงสามารถใช้กรุฝาห้องฝึกซ้อมดนตรี หรือห้องนอนได้ ผิวสัมผัสงาม มีกลิ่นสไตล์ลอฟท์
ระแนงไม้เทียมพลาสติกคอมโพสิต หรือ WPCหมายถึงสิ่งของที่มีส่วนผสมของไม้ แล้วก็พลาสติก มีทั้งยังหน้าตัดแบบกลวง และก็หน้าตัดแบบตัน ซึ่งคุณลักษณะของสินค้านั้นๆจะเด่น รวมทั้งโอนเอียงไปทางไหนก็จะขึ้นกับรูปร่างของไม้ แล้วก็พลาสติกที่เอามาผสมกันนั่นเอง โดยเฉลี่ยแล้วจะแก่การใช้แรงงานไม่น้อยกว่า 10 ปี
กระจกนิรภัยเทมเปอร์ (Tempered Glass หรือ T/P ) หรือที่เรียกว่ากระจกอบ เป็นการนำกระจกปกติไปผ่านกรรมวิธีอบที่ความร้อนสูงราวๆ 650 องศาเซลเซียส แล้วเอามาเป่าด้วยลมแรงดันสูงให้เย็นตัวลงในทันที เพื่อกระจกกำเนิดความแข็งแกร่งกว่าเดิม 3-5 เท่า ทนต่อความเคลื่อนไหวอุณหภูมิ และก็มีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในเรื่องที่กระจกเทมเปอร์มีการแตกหัก จะแตกออกเป็นเม็ดเหมือนเม็ดข้าวโพด ซึ่งมีความแหลมคมไม่มากมาย ทำให้ได้โอกาสเป็นอันตรายน้อยกว่ากระจกปกติ เหมาะกับงานที่เสี่ยงต่อการแตกหัก และก็ปรารถนาความปลอดภัยที่เกิดขึ้นมาจากกระจกร้าวฉาน (safety)